วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

สู่เมืองบางกอก กับขบวนรถด่วนที่ 86

ไปกับรถไฟไทย ภาค 1 สุราษฏร์ธานี - กรุงเทพ - สุราษฏร์ธานี 


"...............นึกถึงวันที่ฉันย่ำเดิน จาก... บ้านเกิด มีลังหนึ่งใบใส่ความหวังไว้เต็มลัง ย่ำเท้าถึงชานชาลา ตีตัวรถไฟ ขึ้นกทม............"

เพลงนี้คงเหมาะกับชุดการเดินทางครั้งนี้ครับ เนื่องจากผมต้องเดินทางขึ้นไป กทม เพื่อไปสมัครสอบ
แต่ด้วยการเดินทางด้วยรถทัวร์ เริ่มจะไม่ไหว เพราะนั่งทีไร ปวดเมื่อยตัวมากๆรอบนี้เลยเดินทางไปกับรถไฟ โดยเลือกรถนอนชั้น 2 ธรรมดาดีกว่าครับ เพราะอย่างไรได้นอน และที่สำคัญเบาะนุ่มดี อิอิ

ขบวนรถที่ใช้เดินทางครั้งนี้ คือขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ กำหนดการเดินทาง เวลา 18.40 นาที ผมเดินทางไปก่อนล่วงหน้านิดหนึ่ง ถ่ายรูปบรรยากาศสถานีรถไฟหน่อย




ระหว่างรอ ก็มีรถไฟ ขบวนก่อนหน้า เข้าออกสถานีหลายขบวน เริ่มจากขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ - สุราษฏร์ครับ กำลังเข้าสถานี



ส่วนนี้ขบวนท้องถิ่นที่ 489 ชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ - คีรีรัฐนิคม กำลังรอออกจากสถานี




เมื่อขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ - สุราษฏร์ธานี เข้าสู่สถานีสุราษฏร์ธานีแล้ว ขบวนท้องถิ่นที่ 489 ชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ - คีรีรัฐนิคม ก็เดินเครื่องออกจากสถานีสุราษฏร์ธานีครับ





ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 174  นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ อีกขบวนก็เข้าสถานี





ตามมาด้วย ขบวนรถเร็วที่ 168  กันตัง - กรุงเทพ ครับ










ตู้ที่ผมโดยสาร อยู่ที่สถานีสุราษฏร์ธานีแล้วครับ





เพียงแต่รอขบวนกรุงเทพ - นครศรธรรมราช ที่จะใช้เดินทางมาพนักงานการรถไฟ ก็จะนำตู้ต่อเข้าขบวน ส่งผลให้ตู่ที่ผมโดยสาร อยู่ท้ายขบวน คันที่ 16 ด้วยคันนี้ครับ



รถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 43 จอดสนิทรอให้บริการต่อไปครับ




และแล้ว ขบวนรถด่วนที่ ๘๖ นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ตรงเวลา เมื่อเวลา 18.40 นาฬิกา




ปกติเมื่อต่อขบวนเสร็จ ก็เดินทางได้เลย แต่...........ตู้นอนปรับอากาศ เบรคดันเสีย เลยต้องจอดรอเวลาซ่อม นานถึง 2 ชั่วโมงครับ





เลยออกอาการเซ็งนิดหน่อย แต่เพราะผมชอบรถไฟ ไม่ว่ากัน (นี่ถ้ารถทัวร์ งานนี้มีโวย)



ประมาณทุ่มเศษๆ จึงเดินทางออกจากสถานีสุราษฏร์ธานีครับ



หลับสบายครับ เนื่องจากอากาศเย็นมากๆ จนกระทั่งเช้าแล้วครับ ตื่นมาอีกที ถึงสถานีนครปฐมแล้วว






แต่เนื่องจากจากสถานีศาลายา จนถึงชุมทางบางซื่อ มีการก่อสร้างทางรถไฟคู่ขนาน เลยทำให้รถไฟวิ่งด้วยความเร็วไม่ได้ ตรงนี้จึงทำให้เสียเวลาไปอีกนิดหน่อย





และแล้วก็มาถึงชุมทางบางซื่อครับ






มีขบวนรถไฟสวนทางพอดี











ผมสนุกกับการนั่งรถไฟ และถ่ายรูป แต่อีกท่านดูแล้วไม่ค่อยจะสบายเท่าไหร่ อิอิ แต่ยังดีที่อากาศเย็นมากๆ พอขบวนออกวิ่ง จะเย็นถึงใจเลยครับ



และแล้ว ก็มาถึงแล้วครับ สถานรรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ถึงเวลา 9โมงเศษๆ ครับ ผิดเวลา ไปเกือบสองชั่วโมง แต่อากาศเย็นจริงๆ ดั่งที่เขาบอก







จากนั้นเดินทางไปห้องน้องสาวครับ อาบน้ำแต่งตัว และเดินทางไปอาคารศาลอาญา รัชดา

แต่เนื่องจากผมจองคิวสมัครไว้ช่วงบ่าย เลยไม่มีปัญหาครับ ซึ่งบรรยากาศในการรอสมัคร ดีมากๆ สาวๆสวยๆเนติบัณฑิตไทย มาสมัครมากพอสมควร แต่เนื่องจากสถานที่ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด และการนำกล้องติดตัวไป ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เลยไม่มีภาพบรรยากาศมาให้ชมครับ แต่ยังคงอยู่ในความทรงจำผมตลอดไป อิอิอิอิ




หลังจากสมัครเสร็จ มีรีเควสว่าอยากกินอาหารเจเปน  ส่วนตัวผมไม่ชอบเอามากๆ แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่จะกิน แถมยังเรียกเราป๋าอีก นิสัยสมัยเที่ยวห้องอาหารเลยคืนชีพ เอ๊า ไปก็ไป ที่นี่ครับ







อาหารญี่ปุ่น ซาบูชิ เป็นแบบบุฟเฟ่ครับ มีเวลา 1 ชั่วโมง แตกเลือดเท่าไหร่ได้ตามสบาย หัวละ 290 ครับ



ผบ. ชอบ ซูฉิ เป็นพิเศษ แต่ผมเรียกข้าวเหนียวโป๊ะหน้าปลา 


ครบชั่วโมงแล้วครับ 870 จิ๊ปๆ (เหอๆๆๆ)




จากนั้นก็เดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน จากสถานีรัชดา ไปหัวลำโพงครับ







เนื่องจากเวลาเดินทางขากลับ ผมจองด่วนพิเศษไว้ ซึ่งกำหนดการเดินทางเวลา 22.50 นาฬิกา บรรยากาศในหัวลำโพงเลยเงียบๆ ไม่พลุกพ่านครับ












และแล้ว ขบวนเดินทางกลับของผม ก็มาเทียบชานชลา 5 เป็นขบวนรถด่วยพิเศษร่วม กรุงเทพ - สุราษฏร์ธานี และ กรุงเทพ - ยะลา



ของผมคันที่ 4 ครับ สถาพปรับปรุงดีกว่ายุคก่อนๆ





ออกจากหัวลำโพงตรงเวลาเป๊ะ แต่เจ้ากรรม แอร์ตู้นี้ ดันทำงานตัวเดียว เลยทำให้ในห้องโดยสารอบอ้าวนิดๆ ผมเลยไม่ได้หลับดี ต้องออกไปรับลมเย็นๆระหว่างตู้บ่อยๆ จนเช้าครับ







และแล้วก็ถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ ผิดเวลาหน่อยไป ชั่วโมงเศษๆ แต่ก็สนุกปนทุกข์เล็กน้อยครับ