กลับเมืองร้อยเกาะ กับขบวนรถเร็วที่ 167

บันทึกการเดินทางด้วยรถไฟ กลับบ้านเรา เมืองร้อยเกาะ สุราษฏร์ธานี วันที่ 4 ตุลาคม 2555

เข้าของวันที่ 4 ตุลาคม 2555 ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางไปสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นนทบุรี

หลังจากจัดการสมัครสอบเรียบร้อย เป็นเวลาเที่ยงนิดๆ หิวครับ เลยหาอะไรกินก่อนกลับที่พัก

และพลาดไม่ได้ที่จะต้องทานก๋วยเตี๋ยวเรือ อนุสาวรีย์ชัยครับ

หลังจากกลับถึงห้อง อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ถึงเวลาเดินทางกลับสุราษฏร์ธานีครับ รอบนี้ ผมเลือกขึ้นที่สถานีชุมทางบางซื่อ 2 สายใต้ เพราะสะดวกกว่าไปถึงหัวลำโพงครับ

สำหรับขบวนรถไฟที่ผมใช้เดินทางกลับนั้น ผมเลือกเดินทางด้วยขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ซึ่งจะมาถึงสถานีชุมทางบางชื่อ ในเวลา 18.52 นาฬิกา แต่ผมไปถึงสถานีบางชื่อก่อนเวลาเช่นเคย เลยมีโอกาสถ่ายขบวนรถสายอื่นเล็กน้อย

ขบวนแรก คือ ขบวนรถเร็วที่ 173 กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช ทำขบวนโดยหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) หมายเลข 4118

ขบวนต่อมา คือ ขบวนรถด่วนที่ 83 กรุงเทพ – ตรัง ทำขบวนโดยหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi (HID) หมายเลข 4514

จากนั้นขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ก็จะมาถึงสถานีชุมทางบางชื่อ ผิดเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง ผมก็จัดแจงขนสัมภาระและนั่งประจำที่เรียบร้อย หลังจากนั้น เมื่อขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง เดินทางมาถึงสถานีรถไฟนครปฐม ไม่พลาดที่จะต้องซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้ง ที่สถานีนี้ครับ

ราคาไม่แพง กล่องละ 10 บาท ปริมาณไม่มากครับ เลยจัดไปสามกล่อง อิ่มสบายท้อง

หลังจากขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ออกจากสถานีรถไฟนครปฐม สักระยะ ระหว่างทางก็เกิดสิ่งผิดปกติ คือ ขบวนรถเริ่มมีทำการหยุดบ่อยขึ้น และเดินรถด้วยรอบเครื่องเบาโดยตลอด และสุดท้ายขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ในตำนาน ก็ต้องออกจากรางประธาน มาหยุดที่สถานีบ้างโป่งครับ

เท่าที่สอบถาม ปรากฏว่าหัวรถจักรระบบไฮดรอลิกมีปัญหา ทำขบวนต่อไปไม่ได้ จึงต้องรอหัวรถจักรจากบางชื่อมาเปลี่ยนครับ

จอดอยู่นานกว่าชั่วโมง ไม่มีวี่แววว่าหัวรถจักรจะมา เมื่อเป็นดังนั้น ขบวนจึงทำการเดินเบาไปยังสถานีราชบุรี เพื่อใช้หัวรถจักรที่รอทำขบวนอื่นที่สถานีราชบุรีในตอนเช้าแทนครับ

และแล้วขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ก็คลานมาถึงสถานีรถไฟราชบุรีครับ

เมื่อถึงสถานีราชบุรี ก็ทำการเปลี่ยนหัวรถจักร และเริ่มเดินทางเวลา 23.10 นาที ล่าช้ากว่ากำหนด 140 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 20 นาทีครับ

หลังจากเปลี่ยนหัวรถจักรแล้ว ขบวนก็เริ่มทำเวลาด้วยความเร็วพอควร ตื่นมาอีกที เช้าแล้วครับ

ขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง มาถึงสถานีรถไฟชุมพร ประมาณ 6 โมงเศษๆครับ ช้ากว่ากำหนดประมาณ 3 ชั่วโมง

สำหรับผมลงสถานีสุราษฏร์ธานีคงไม่ลำบากเท่าไหร่ แต่ผู้โดยสารที่ไปลงกันตัง นี้นั่งถึงเย็นแน่นอนครับ

ขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง มาถึงสถานีรถไฟไชยา ท่าฉาง และเข้าสู่สถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี

และแล้วขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพ – กันตัง ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ

แม้รถเสียเวลาไปกว่า 3 ชั่วโมง ต่อยังไงก็ยังรักรถไฟไม่เปลี่ยนแปลงครับ ขอบคุณที่ติดตามชมครับ

สู่เมืองบางกอก กับขบวนรถเร็วที่ 174

บันทึกการเดินทางด้วยรถไฟ วันที่ 2 ตุลาคม 2555

จากสุราษฏร์ธานี สู่กรุงเทพมหานคร

เนื่องจากผมมีภารกิจต้องขึ้นไปสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 3 วัน ( สอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ 5555 ) ดังนั้น ในการขึ้นไปกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ย่อมไม่พลาดที่จะเดินทางไปด้วยรถไฟเช่นเคย สำหรับขบวนรถไฟที่ผมใช้เดินทางนั้น ผมเลือกเดินทางด้วยขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ซึ่งจะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในเวลา 16.47 นาฬิกา ผมจึงเดินทางไปสถานีล่วงหน้าก่อนเวลา ตามเคยครับ

เดินทางไปถึงประมาณบ่ายสามโมงเศษๆ ในสถานีเงียบสงบ สงสัยจะมาเร็วเกินไป แต่ตอนนั้น มีการนำตู้โดยสารมาจอดเตรียมไว้ในราง 2 รอหัวรถจักรมาเข้าต่อกับตู้โดยสาร เพื่อทำขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ซึ่งมีกำหนดออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 16.55 นาฬิกา

ไม่นาน หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric รุ่น UM12C หรือ GEK หมายเลข 4011 ซึ่งทำสีมาใหม่ๆก็วิ่งตัวเปล่าเข้ามาในรางที่ 2 ครับ

จากนั้น หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric รุ่น UM12C หรือ GEK หมายเลข 4011 ก็เข้าต่อกับตู้โดยสาร เพื่อทำขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ครับ

เมื่อหัวรถจักรเข้าต่อกับตู้โดยสารเรียบร้อย ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ก็พร้อมออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี สู่ปลายทางสถานีคีรีรัฐนิคมต่อไป

เมื่อขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีไปแล้ว ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ

ในวันนี้ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ทำขบวนด้วยหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ยีอี (GEA.) สีเดิม หมายเลข 4537 ครับ

เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดเพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารแล้ว ปรากฏว่า พนักงานได้ถอดหัวรถจักรออกจากตู้โดยสารหลัก เพื่อถอยไปนำตู้โดยสารชั้น 3 จำนวน 3 คัน ซึ่งเป็นตู้โดยสารสุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ มาต่อกับขบวนตู้โดยสารหลัก

เมื่อหัวรถจักรนำตู้โดยสารชั้น 3 จำนวน 3 คัน มาต่อกับขบวนตู้โดยสารหลักแล้ว หัวรถจักรก็กลับมาทำขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ เคลื่อนตัวสู่จุดหมายปลายทางครับ

ภาพขณะขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ข้ามสะพานจุลจอมเกล้าครับ

แสงยามเย็นกับขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ

เนื่องจากต้องเตรียมตัวขึ้นรถไฟตั้งแต่บ่าย มื้อเย็นผมเลยจัดการทานบนรถไฟ ได้บรรยากาศมากๆครับ 

ตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าครับ

และแล้วขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ เดินทางมาถึงสถานีรถไฟชุมพรครับ แต่กำลังจะถูกขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ แซงแล้วครับ

ออกจากสถานีชุมพร หลับพักเอาแรง มารู้สึกตัวอีกที ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟราชบุรี เวลา 04.30 นาฬิกา โดยตามปกติจะต้องถึงสถานีรถไฟราชบุรี เวลา02.42 ล่าช้ากว่ากำหนด 108 นาที

ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานพระรามหก

แสงยามเช้ากับขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ

เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ เดินทางมาถึงสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ผมจึงลงสถานีนี้เพราะใกล้กับที่พักมากที่สุด เพื่อเตรียมตัวไปจัดการเรื่องเอกสารในการสมัครสอบต่อไปครับ

เมื่อจัดแจงเก็บสัมภาระและอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปรับหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารที่จะใช้ในการสมัครสอบตามสถานที่ต่างๆ

ที่แรก สำนักฝึกอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาครับ

ตั้งแต่สำเร็จการศึกษาไป คิดถึงบรรยากาศ ณ ที่แห่งนี้มากๆ

สถานที่ที่สอง สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน

หลังจากรับเอกสารเรียบร้อยในช่วงเข้า ช่วงบ่ายก็เดินทางไปซื้อของอีกหลายอย่างที่ประตูน้ำ จนหมดตรูดก่อนกลับที่พัก

กว่าจะเสร็จเรื่องเล่นเอาตกค่ำเลยครับ

ติดตามต่อบันทึกการเดินทางด้วยรถไฟ กลับบ้านเรา เมืองร้อยเกาะ สุราษฏร์ธานี วันที่ 4 ตุลาคม 2555 ครับ