วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โดดงานไปนั่งรถไฟเล่น ตอนจบ

บันทึกการเดินทางด้วยรถไฟ วันที่ 3 ธันวาคม 2557 สุราษฏร์ธานี – พัทลุง – สุราษฏร์ธานี 
ช่วงสุดท้าย สุดปลายทางสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี

จากช่วงที่ 5 หลานตาชู สเต๊กเฮาส์ – สถานีรถไฟพัทลุง เดินทางกันต่อครับ

หลังจากขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 ชุมพร – ชุมทางหาดใหญ่ เคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟพัทลุงแล้ว ประมาณ 3 นาที นายสถานีพัทลุง ก็ให้สัญญาณปล่อยขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เดินทางกลับสุราษฏร์ธานีครับ

ก่อนจะกลับขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักนิด





ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟพัทลุง



มุมมองสถานีรถไฟพัทลุงจากท้ายขบวนรถครับ




มุมมองสถานีรถไฟพัทลุงจากท้ายขบวนรถอีกรูป




ขณะออกจากสถานีรถไฟพัทลุง ฟ้าสดใสไม่มีฝนครับ




วิวสองข้างทางริมทางรถไฟ





ขากลับขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี มีผู้โดยสารน้อยครับ จึงมีที่ว่างมากพอสมควร ทำให้ผมสามารถเดินถ่ายรูปจากหน้าต่างตู้โดยสารได้ทั้งสองด้านอย่างสะดวก




สักพัก ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาจอดรับส่งผู้โดยสาร ที่หยุดรถบ้านมะกอกใต้ ซึ่งตอนขามาขบวนรถท้องถิ่นที่ 447 ไม่ได้จอดครับ



หลังจากขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี จอดรับส่งผู้โดยสาร ที่หยุดรถบ้านมะกอกใต้ แล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป และหยุดรับส่งตามสถานีรถไฟและที่รถตามเดิมเหมือนกับขามาครับ ซึ่งช่วงนี้ผมขอไม่ลงภาพอีก เนื่องจากขากลับไม่ได้ถ่ายทุกสถานีอย่างเช่นขามาครับ



ขากลับนี้จะเน้นถ่ายวิวสองข้างทางริมทางรถไฟครับ



เมื่อขบวนเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ฟ้าที่เคยใส กลับมีเมฆดำปกคลุมครับ



และแล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ตลอดเส้นทางครับ



ที่หยุดรถบ้านทุ่งค่าย จากมุมมองท้ายขบวน



จำนวนผู้โดยสารไม่กี่คน นั่งสบายครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าโค้งทางซ้ายก่อนถึงสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ



สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ



ตู้ ตญ ( ตู้สินค้า ) ที่ถูกจอดทิ้งในสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี กำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง ดูจากสีของท้องฟ้าข้างหน้าแล้ว เจอฝนตกหนักแน่ๆครับ



ออกจากสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง มานิดหน่อย ฝนก็เทลงมาอย่างหนักครับ



ตกหนักขนาดพนักงานต้องมายกกระจกขึ้นครับ ไม่งั้นภายในตู้โดยสารเปียกแน่ๆ



เมื่อขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี มาถึงสถานีรถไฟร่อนพิบูลย์ ฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุด สงสัยที่ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพซ่อมขณะขบวนรถเข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาในช่วงขากลับนั้น คงฟาล์วแน่ๆครับ



แต่เหมือนเทวดาจะรู้ จู่ๆฝนก็หยุดตกครับ ผมจึงรีบดันกระจกลง เตรียมกล้อง ตั้งท่าเล็งถ่ายอย่างดีใจครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เริ่มไต่ระดับสู่อุโมงค์ช่องเขาครับ



แม้จะมีละอองฝนบ้าง แต่ตอนนั้นไม่สนครับ เล็งยิงซัตเตอร์อย่างเดียวครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ไต่ระดับสู่อุโมงค์ช่องเขาครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เทโค้งทางซ้ายก่อนเข้าอุโมงค์ครับ





ถึงบริเวณปากอุโมงค์ช่องเขาแล้วครับ จะเห็นว่าปากอุโมงค์จะมีศาลเพียงตา หรือศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ครับ




หัวขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาแล้วครับ





ภาพสุดท้ายก่อนเข้าอุโมงค์ มีป้ายตัวเลขระบุว่า “2457” เดาว่าน่าจะเป็นปีที่ก่อสร้าง



และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็เข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาเป็นที่เรียบร้อย






เผอิญก่อนออกจากอุโมงค์ด้านอำเภอทุ่งสง ด้วยความตื่นเต้น ผมดันไปกดปุ่มซัตเตอร์ก่อนออกจากอุโมงค์นิดเดียว จึงทำให้กล้องซึ่งตั้งอยู่ที่โหมด AV อ่านค่าแสงในที่มืด และบันทึกภาพด้วยสปีดซัตเตอร์ที่ 30 วินาที ซึ่งต้องรอให้ครบ 30 วินาที จึงจะสามารถถ่ายภาพต่อไปได้ เมื่อท้ายขบวนออกจากอุโมงค์ จึงไม่สามารถถ่ายอะไรได้ เพราะกล้องยังค้างอยู่ พอกล้องบันทึกภาพเสร็จ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็ห่างจากอุโมงค์มาไกลแล้วครับ



สรุป ทริปนี้ จึงไม่ได้ภาพปากอุโมงค์ทางด้านอำเภอทุ่งสงทั้งขาไปและขากลับครับ ไม่เป็นไรค่อยแก้ตัวใหม่ ในทริปหน้าครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ลงเขาเทโค้งทางซ้ายก่อนเข้าสถานีรถไฟช่องเขาครับ





จากนั้น ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟช่องเขาครับ



ภาพขณะขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เทโค้งขวาก่อนเข้าสถานีใสใหญ่




การถ่ายภาพรถไฟขณะเข้ารางโค้ง ต้องระวังอันตรายจากกิ่งไม้ริมทางรถไฟ และเสาสัญญาณนะครับ



หากไม่นั่งรถไฟจนชำนาญ เสาจะตีเอากล้องพัง และถ้าหนักกว่านั้น ตีเข้าร่างกายจะบาดเจ็บสาหัสได้



และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 17.05 นาฬิกา ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 ชั่วโมง



เมื่อเติมน้ำเรียบร้อย ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็เดินเครื่องต่อไปครับ



มีการเปิดไฟภายในตู้โดยสารเตรียมแล้วครับ




นั่งรถมากว่า 12 ชั่วโมง ต้องยืดขาช่วย



ภาพหมอกจางๆบนเทือกเขาหลวงครับ





แสงสุดท้ายของวัน



แสงไฟจากหัวรถจักร ส่องกระทบสถานีห้วยปริกครับ



ภายในตู้โดยสารยามค่ำคืนครับ



ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงสถานีรถไฟบ้านพรุกระแชง เวลา 18.21 นาฬิกา ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 ชั่วโมงเหมือนเดิม



ทริปนี้เดินทางตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกครับ




เนื่องจากขบวนรถล่าช้ากว่ากำหนดถึงสองชั่วโมง หลังจากออกจากสถานีสถานีรถไฟบ้านพรุกระแชงแล้ว เส้นทางจากนี้จะมีสภาพดี และไม่มีป้ายให้เดินเบาอีก ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี จึงวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ครับ



และขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ





เมื่อเข้าเขตสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าสู่ชานชลาที่ 2 เพื่อจอดเตรียมส่งผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางครับ




และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 19.34 นาฬิกา ซึ่งตามกำหนดขบวนนี้จะมาถึงสถานีสุราษฏร์ธานี เวลา 17.55 นาฬิกา ล่าช้าประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีครับ


สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ สุราษฏร์ธานี – พัทลุง – สุราษฏร์ธานี ใน 1 วัน คิดเป็นค่าใช้จ่าย คือ ค่ารถไฟจากสถานีสุราษฏร์ธานี ไปสถานีพัทลุง ฟรี เพราะรัฐจ่ายให้ 0 บาท / กาแฟ 2 แก้ว ขนมขบเคี้ยวหลายอย่าง ซาลาเปาเซเว่น น้ำเปล่า ก่อนขึ้นรถ 200 บาท / ข้าวเหนียวไก่ทอด ที่สถานีรถไฟบ้านส้อง 50 บาท / ชาเย็น 1 ถุง 10 บาท / ค่าวินมอเตอร์ไซค์นั่งไปหลานตาชู คนละ 20 บาท เป็นเงิน 40 บาท / ค่าอาหาร 3 อย่าง และน้ำที่หลานตาชู สเต๊กเฮาส์ 485 บาท / ค่าวินมอเตอร์ไซค์กลับไปสถานีรถไฟ คนละ 20 บาท รวม 40 บาท / กาแฟภาคบ่าย ผ้าเย็น ค่าเข้าห้องน้ำที่สถานี 100 บาท / ค่ารถไฟจากสถานีพัทลุง ไปสถานีสุราษฏร์ธานี ฟรี เพราะรัฐจ่ายให้ 0 บาท / น้ำดื่มบนรถไฟขากลับ 2 ขวด 50 บาท รวมเงินที่ใช้ไปในทริปนี้ทั้งสิ้น 975 บาท

ใช้เวลาในการเดินทาง คือ ออกเดินทาง จากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 6.20 นาฬิกา กลับมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 19.34 นาฬิกา รวมระยะเวลาที่ใช้ในการนี้ รวม 13 ชั่วโมง 14 นาที ( ไม่รวมเวลาในการเดินทางออกจากบ้าน มาสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี และจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี กลับบ้าน อีก 2 ชั่วโมง )

คิดเป็นระยะทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ( กิโลเมตรที่ 635 ) ถึงสถานีรถไฟพัทลุง ( กิโลเมตรที่ 846 ) 211 กิโลเมตร และจากสถานีรถไฟพัทลุง ( กิโลเมตรที่ 846 ) กลับมาสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ( กิโลเมตรที่ 635 ) 211 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 422 กิโลเมตร

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาทุกภาคครับ พบกันใหม่ กับเส้นทางสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี – สถานีรถไฟนครศรีธรรมราชครับ