สถานีต้นทาง สุราษฏร์ธานี
สถานีปลายทาง กรุงเทพ ( หัวลำโพง )
ขบวนรถที่โดยสาร ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
ความจากเดิมตอนที่แล้ว กลับเมืองร้อยเกาะ กับขบวนรถเร็วที่ 173 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
เนื่องจากผมมีภารกิจต้องขึ้นไปสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 ที่กรุงเทพมหานคร โดยจะสอบทั้งหมดเป็นเวลา 3 วัน วันแรก คือ วันอาทิตย์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 วันที่ 2 คือ วันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 และวันที่ 3 คือ วันอาทิตย์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 แต่ในรอบนี้มาสามารถไปอยู่กรุงเทพได้หลายวัน เพราะติดงานคดีที่ต้องกลับมาสืบพยานระหว่างสัปดาห์ รอบนี้เลยใช้ระบบสอบเสร็จแล้วเดินทางกลับก่อนแล้วค่อยขึ้นไปใหม่ครับ
หลังจากกลับมาทำภารกิจเกี่ยวกับคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางสู่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง เพื่อขึ้นไปสอบอีก 2 กลุ่มวิชาที่เหลือ ในวันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 และ วันอาทิตย์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ซึ่งแน่นอน ผมย่อมไม่พลาดที่จะเดินทางไปด้วยรถไฟเช่นเคย โดยขบวนรถไฟที่ผมใช้เดินทางนั้น เป็นขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ซึ่งจะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในเวลา 16.47 นาฬิกา โดยในรอบนี้ได้ที่นั่งตู้นอนชั้นสองพัดลม สมปรารถนาครับ
หลังจากกลับมาทำภารกิจเกี่ยวกับคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางสู่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง เพื่อขึ้นไปสอบอีก 2 กลุ่มวิชาที่เหลือ ในวันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 และ วันอาทิตย์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ซึ่งแน่นอน ผมย่อมไม่พลาดที่จะเดินทางไปด้วยรถไฟเช่นเคย โดยขบวนรถไฟที่ผมใช้เดินทางนั้น เป็นขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ซึ่งจะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในเวลา 16.47 นาฬิกา โดยในรอบนี้ได้ที่นั่งตู้นอนชั้นสองพัดลม สมปรารถนาครับ
ในวันนั้นผมเดินทางไปถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ก่อนเวลา ประมาณ บ่ายสี่โมงเย็นครับ
เมื่อไปถึง ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ซึ่งมีกำหนดออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 16.55 นาฬิกา ยังจอดอยู่ที่ชานชาลาที่ 2 รอเวลาออกเดินทาง โดยในวันนั้น ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม นำลากขบวนโดย หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric รุ่น UM12C หรือ GEK หมายเลข 4043 ครับ
ไม่นานก็มีเสียงตามสายประกาศว่า ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ และขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ จะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ งานเข้าเลยครับ
เมื่อรถเสียเวลาแบบนี้ งดอุดหนุนตู้เสบียง กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่แม่ค้าขับรถเครื่องแบบพ่วงข้าง มาขายอยู่หน้าสถานี ประชดการรถไฟซะเลย
ขายแบบง่ายๆอย่างนี้ แต่ขอบอก รสชาติอร่อยกว่าร้านที่เปิดเป็นตึกแถวหลายร้านนะครับ
อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเรียบร้อย เดินถ่ายรูปเพื่อย่อยสักนิด
จากนั้นเมื่อถึงเวลา 16.55 นาฬิกา ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ก็ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี สู่ปลายทางสถานีคีรีรัฐนิคมครับ
จากนั้นเดินขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ ภายรูปสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในมุมสูงพลางๆครับ
รอไปเรื่อยๆ ไม่นาน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ – สุราษฏร์ธานี ก็เดินทางมาถึงสถานีปลายทาง และจอดส่งผู้โดยสารในชานชาลาที่ 3 รอเวลาเพื่อทำขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ โดยออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 20.41 นาฬิกา ต่อไปครับ
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ – สุราษฏร์ธานี ในวันนั้นขับเคลื่อนด้วยรถดีเซลรางปรับอากาศ แดวู รุ่น APD.60 หมายเลข 2541 ครับ
ประมาณ 6 โมงเย็นเศษๆ ผมจึงลงจากสะพานข้ามทางรถไฟ ไปรอถ่ายรูปบริเวณชานชาลาที่ 1 ครับ
ประมาณ 6 โมงเย็นเศษๆ ขบวนรถรถไฟ ขบวนแรกที่มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี คือขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ครับ
ในวันนั้น ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ นำขบวนโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) ส่วนหมายเลขอะไรไม่ทราบเพราะภาพจับไม่ชัดครับ
ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเป็นขบวนต่อไปครับ
ในวันนั้น ขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ นำขบวนโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) ส่วนหมายเลขอะไรนั้น ไม่ทราบเพราะภาพจับไม่ทันเช่นกัน
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป
หลังจากขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเรียบร้อยแล้ว รออีกสักระยะใหญ่ๆ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาคลานถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 18.50 นาฬิกา ล่าช้า 2 ชั่วโมงครับ
เมื่อขบวนหยุดขบวนสนิทแล้ว ก็ขนสัมภาระขึ้นตู้โดยสารตามที่ระบุไว้ แต่ไม่ต้องรีบร้อนครับ เพราะต้องจอดอยู่พักหนึ่งเพื่อนำตู้โดยสารชั้น 3 ซึ่งเป็นตู้โดยสาร สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ จำนวน 2 ตู้ ที่จอดอยู่ที่สถานีสุราษฏร์ธานี มาต่อท้ายขบวนก่อนครับ
เมื่อรถจักรสับเปลี่ยน นำตู้โดยสารชั้น 3 จำนวน 2 ตู้ ที่จอดอยู่ที่สถานีสุราษฏร์ธานี ไปต่อท้ายขบวนเรียบร้อย ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็เดินทางออกจากสถานีสุราษฏร์ธานีทันทีครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานจุลจอมเกล้าครับ
การเดินทางในครั้งนี้ พิเศษหน่อยครับ เนื่องจาก ผบ.เพิ่งแลกกล่องใส่อาหารด้วยแสตมป์เซเว่นมาใหม่ ๆ ในรอบนี้เลยเตรียมข้าวและกับข้าวมาทานบนขบวนรถด้วยซะเลยครับ
เมนูในวันนี้คือ หมูทอดไข่ดาวครับ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีมาสักระยะ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็สวนกับขบวนรถสินค้า ที่สถานีรถไฟคลองไทรครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟไชยาครับ
ขณะจอดที่สถานีไชยา ผมเห็นพระภิกษุรูปนี้ ซึ่งเป็นฝรั่งไม่ใช่คนเอเซีย นั่งอยู่ในชานชาลา ในท่าตั้งจิตอยู่ในสมาธิ นิ่งสงบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เลยอดคิดสังเวชใจกับพระสงฆ์ที่เป็นคนไทยแต่กำเนิดบางรูป ที่มีพฤติกรรมแย่ๆ และมีภาพหลุดออกมาในสังคมออนไลน์เรื่อยๆ เฮ้อ..เวรกรรมของประเทศไทย
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป
สถานีที่ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดรับผู้โดยสาร คือสถานีรถไฟท่าชนะ
สถานีรถไฟท่าชนะ ตั้งอยู่ถนนรถไฟ ตำบลท่าชนะ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 ของทางรถไฟสายใต้
ระหว่างเดินทางยังไม่ง่วงเลยขอดูหนังสักตอนครับ
สถานีที่ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดรับผู้โดยสารเป็นสถานีต่อไป คือสถานีรถไฟชุมพร โดยเข้าจอดในชานชาลาที่ 2 เนื่องจากต้องหลีกทางให้ขบวนรถจากกรุงเทพครับ
ส่วนขบวนที่หลีกทางให้นั้น ไม่แน่ใจครับว่าเป็นขบวนรถอะไร
หลังจากเสียเวลาพอสมควร ตอนนี้ค่อยเร็วสมชื่อขบวนรถเร็วขึ้นมาหน่อย
เผลอหลับไปตอนไหนไม่แน่ใจ ตื่นขึ้นมาอีกที ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟราชบุรีครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ เข้าสู่ศาลายา
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ กับบรรยากาศยามเช้าแห่งท้องทุ่งแถวศาลายา
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะเข้าโค้งหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟบางบำหรุ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก่อนขึ้นสะพานพระรามหกครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานพระรามหกครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ออกจากสะพานพระรามหก เตรียมเข้าสู่สถานีชุมทางบางซื่อ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะกำลังเข้าสู่สถานีชุมทางบางซื่อ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ เวลาประมาณ 7.10 นาฬิกา
แม้ออกจากสุราษฏร์ธานีล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง แต่ขบวนนี้ฮึดสู้ ควบทำความเร็วได้ถึงใจ มาถึงเร็วกว่ารอบที่แล้วพอสมควรครับ
หลังจากพักผ่อนในช่วงเข้า ช่วงบ่าย ก็เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เพื่อทำลงสนามสอบต่อไปครับ
หลังจากสอบเสร็จ เดินทางกลับที่พัก หาอะไรทานก่อนพักผ่อน เพื่อลุยกับกลุ่มวิชาสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ครับ
ขอบคุณครับ
เมื่อรถเสียเวลาแบบนี้ งดอุดหนุนตู้เสบียง กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่แม่ค้าขับรถเครื่องแบบพ่วงข้าง มาขายอยู่หน้าสถานี ประชดการรถไฟซะเลย
ขายแบบง่ายๆอย่างนี้ แต่ขอบอก รสชาติอร่อยกว่าร้านที่เปิดเป็นตึกแถวหลายร้านนะครับ
อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวเรียบร้อย เดินถ่ายรูปเพื่อย่อยสักนิด
จากนั้นเมื่อถึงเวลา 16.55 นาฬิกา ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 สุราษฏร์ธานี – คีรีรัฐนิคม ก็ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี สู่ปลายทางสถานีคีรีรัฐนิคมครับ
จากนั้นเดินขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ ภายรูปสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในมุมสูงพลางๆครับ
รอไปเรื่อยๆ ไม่นาน ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ – สุราษฏร์ธานี ก็เดินทางมาถึงสถานีปลายทาง และจอดส่งผู้โดยสารในชานชาลาที่ 3 รอเวลาเพื่อทำขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ โดยออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 20.41 นาฬิกา ต่อไปครับ
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43 กรุงเทพ – สุราษฏร์ธานี ในวันนั้นขับเคลื่อนด้วยรถดีเซลรางปรับอากาศ แดวู รุ่น APD.60 หมายเลข 2541 ครับ
ประมาณ 6 โมงเย็นเศษๆ ผมจึงลงจากสะพานข้ามทางรถไฟ ไปรอถ่ายรูปบริเวณชานชาลาที่ 1 ครับ
ประมาณ 6 โมงเย็นเศษๆ ขบวนรถรถไฟ ขบวนแรกที่มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี คือขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ครับ
ในวันนั้น ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ นำขบวนโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) ส่วนหมายเลขอะไรไม่ทราบเพราะภาพจับไม่ชัดครับ
ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเป็นขบวนต่อไปครับ
ในวันนั้น ขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ นำขบวนโดยรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) ส่วนหมายเลขอะไรนั้น ไม่ทราบเพราะภาพจับไม่ทันเช่นกัน
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป
หลังจากขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเรียบร้อยแล้ว รออีกสักระยะใหญ่ๆ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาคลานถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 18.50 นาฬิกา ล่าช้า 2 ชั่วโมงครับ
เมื่อขบวนหยุดขบวนสนิทแล้ว ก็ขนสัมภาระขึ้นตู้โดยสารตามที่ระบุไว้ แต่ไม่ต้องรีบร้อนครับ เพราะต้องจอดอยู่พักหนึ่งเพื่อนำตู้โดยสารชั้น 3 ซึ่งเป็นตู้โดยสาร สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ จำนวน 2 ตู้ ที่จอดอยู่ที่สถานีสุราษฏร์ธานี มาต่อท้ายขบวนก่อนครับ
เมื่อรถจักรสับเปลี่ยน นำตู้โดยสารชั้น 3 จำนวน 2 ตู้ ที่จอดอยู่ที่สถานีสุราษฏร์ธานี ไปต่อท้ายขบวนเรียบร้อย ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็เดินทางออกจากสถานีสุราษฏร์ธานีทันทีครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานจุลจอมเกล้าครับ
การเดินทางในครั้งนี้ พิเศษหน่อยครับ เนื่องจาก ผบ.เพิ่งแลกกล่องใส่อาหารด้วยแสตมป์เซเว่นมาใหม่ ๆ ในรอบนี้เลยเตรียมข้าวและกับข้าวมาทานบนขบวนรถด้วยซะเลยครับ
เมนูในวันนี้คือ หมูทอดไข่ดาวครับ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีมาสักระยะ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็สวนกับขบวนรถสินค้า ที่สถานีรถไฟคลองไทรครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟไชยาครับ
ขณะจอดที่สถานีไชยา ผมเห็นพระภิกษุรูปนี้ ซึ่งเป็นฝรั่งไม่ใช่คนเอเซีย นั่งอยู่ในชานชาลา ในท่าตั้งจิตอยู่ในสมาธิ นิ่งสงบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เลยอดคิดสังเวชใจกับพระสงฆ์ที่เป็นคนไทยแต่กำเนิดบางรูป ที่มีพฤติกรรมแย่ๆ และมีภาพหลุดออกมาในสังคมออนไลน์เรื่อยๆ เฮ้อ..เวรกรรมของประเทศไทย
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป
สถานีที่ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดรับผู้โดยสาร คือสถานีรถไฟท่าชนะ
สถานีรถไฟท่าชนะ ตั้งอยู่ถนนรถไฟ ตำบลท่าชนะ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 ของทางรถไฟสายใต้
ระหว่างเดินทางยังไม่ง่วงเลยขอดูหนังสักตอนครับ
สถานีที่ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดรับผู้โดยสารเป็นสถานีต่อไป คือสถานีรถไฟชุมพร โดยเข้าจอดในชานชาลาที่ 2 เนื่องจากต้องหลีกทางให้ขบวนรถจากกรุงเทพครับ
ส่วนขบวนที่หลีกทางให้นั้น ไม่แน่ใจครับว่าเป็นขบวนรถอะไร
หลังจากเสียเวลาพอสมควร ตอนนี้ค่อยเร็วสมชื่อขบวนรถเร็วขึ้นมาหน่อย
เผลอหลับไปตอนไหนไม่แน่ใจ ตื่นขึ้นมาอีกที ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟราชบุรีครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ เข้าสู่ศาลายา
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ กับบรรยากาศยามเช้าแห่งท้องทุ่งแถวศาลายา
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะเข้าโค้งหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟบางบำหรุ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก่อนขึ้นสะพานพระรามหกครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานพระรามหกครับ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ออกจากสะพานพระรามหก เตรียมเข้าสู่สถานีชุมทางบางซื่อ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะกำลังเข้าสู่สถานีชุมทางบางซื่อ
ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ เวลาประมาณ 7.10 นาฬิกา
แม้ออกจากสุราษฏร์ธานีล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง แต่ขบวนนี้ฮึดสู้ ควบทำความเร็วได้ถึงใจ มาถึงเร็วกว่ารอบที่แล้วพอสมควรครับ
หลังจากพักผ่อนในช่วงเข้า ช่วงบ่าย ก็เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เพื่อทำลงสนามสอบต่อไปครับ
หลังจากสอบเสร็จ เดินทางกลับที่พัก หาอะไรทานก่อนพักผ่อน เพื่อลุยกับกลุ่มวิชาสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ครับ
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น