สถานีต้นทาง สุราษฏร์ธานี
สถานีปลายทาง กรุงเทพ ( หัวลำโพง )
ขบวนรถที่โดยสาร ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
เนื่องจากผมมีภารกิจต้องขึ้นไปสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการอัยการ ในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย ประจำปี 2555 ที่กรุงเทพมหานคร โดยจะสอบทั้งหมดเป็นเวลา 3 วัน วันแรก คือ วันอาทิตย์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 วันที่ 2 คือ วันเสาร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 และวันที่ 3 คือ วันอาทิตย์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 แต่ในรอบนี้มาสามารถไปอยู่กรุงเทพได้หลายวัน เพราะติดงานคดีที่ต้องกลับมาสืบพยานระหว่างสัปดาห์ รอบนี้เลยใช้ระบบสอบเสร็จแล้วเดินทางกลับก่อนแล้วค่อยขึ้นไปใหม่ครับ
ซึ่งแน่นอน ย่อมไม่พลาดที่จะเดินทางไปด้วยรถไฟเช่นเคย โดยขบวนรถไฟที่ผมใช้เดินทางนั้น เป็นขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ซึ่งจะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในเวลา 18.23 นาฬิกา เนื่องจากขบวนอื่น ที่โดยสารเต็มหมดแล้วครับ
ผมเดินทางไปถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
สักพักมีเสียงหวูดดังมาจากฝั่งสถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ หันไปดู ปรากฏว่ามีขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 43 กรุงเทพ - สุราษฏร์ธานี มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีพอดี ในวันนี้ถือว่าขบวนรถมาถึงตรงเวลาครับ
ในรอบนี้ มีน้องตุน หลานชาย มาส่งไปสอบด้วย
เมื่อขบวนขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 43 กรุงเทพสุราษฏร์ธานี เข้าจอดส่งผู้โดยสารในชานชาลาที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ
ในวันนี้ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ทำขบวนด้วยหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (ALS) หมายเลข 4118 ครับ
ตามกำหนดขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ในเวลา 16.47 นาฬิกา ในวันนี้ ถือว่าขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาตรงเวลาอีกขบวนครับ
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่จุดหมายปลายทางครับ
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเรียบร้อยแล้ว ไม่นานขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ
ในวันนี้ ขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ทำขบวนด้วยหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom (CAT. Engine)หมายเลข 4403 ครับ
เมื่อขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ จอดให้ผู้โดยสารขึ้นตู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป
หลังจากขบวนรถเร็วที่ 168 กันตัง – กรุงเทพ ออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินข้ามไปชานชาลาที่ 2 เพื่อเตรียมตัวขึ้นตู้โดยสารปรับอากาศ คันที่ 15 สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ ที่จอดอยู่ในชานชาลาที่ 3 รอต่อเข้ากับขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ที่จะมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 18.23 นาฬิกา เลยขอแวะถ่ายเจ้ารถดีเซลรางปรับอากาศ แดวู รุ่น APD.60 หมายเลข 2537 สักหน่อยครับ
เจ้ารถดีเซลรางปรับอากาศ แดวู รุ่น APD.60 หมายเลข 2537 คันนี้ ซึ่งทำขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 43 กรุงเทพ - สุราษฏร์ธานี ในเวลากลางวัน พอตกค่ำก็จะแปลงร่างทำขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ โดยออกจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 20.41 นาฬิกาครับ
ตู้โดยสารปรับอากาศ คันที่ 15 สุราษฏร์ธานี – กรุงเทพ ซึ่งผมใช้โดยสารในวันนี้ จอดอยู่ในชานชาลาที่ 3 เรียบร้อยแล้ว รอแค่ขบวนรถด่วนที่ 86 มา ตู้โดยสารนี้ก็จะถูกนำไปต่อท้ายขบวนรถครับ
สำหรับตู้โดยสารที่รอต่อขบวนที่สถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี มีจำนวน 3 คันครับ ได้แก่คัน ที่ 13,14 และ 15 เมื่อขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึง ตู้โดยสารทั้งสามคัน จะถูกนำไปต่อท้ายขบวน
โดยรถจักรสับเปลี่ยนดีเซลไฮดรอลิค HENSCHEL HAS หมายเลข 75 ครับ
รถจักรสับเปลี่ยนดีเซลไฮดรอลิค HENSCHEL HAS หมายเลข 75 อีกมุมครับ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ช้ากว่ากำหนดพอสมควรครับ ทั้งที่ขบวนอื่นก่อนหน้านี้มาตรงเวลา ดังนั้น เมื่อรถจักรสับเปลี่ยนดีเซลไฮดรอลิค HENSCHEL HAS หมายเลข 75 นำตู้โดยสารคันที่ 13 , 14 และ 15 ไปต่อท้ายขบวนเรียบร้อย ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็เดินทางออกจากสถานีสุราษฏร์ธานีทันทีครับ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟชุมพร เวลา 22.22 นาฬิกา ช้ากว่ากำหนด 72 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 12 นาทีครับ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ช้ากว่ากำหนด 72 นาที คิดว่านานแล้ว เหลือบไปเห็นจอแสดงเวลารถขบวนอื่น แม่เจ้า ขบวนรถเร็วที่ 170 ยะลา – กรุงเทพ ล่าช้า 5 ชั่วโมงนู้นเลย
เนื่องจากรอบนี้เดินทางด้วยตู้โดยสารปรับอากาศ เลยนอนหลับยาวๆ ไม่มีภาพระหว่างเดินทาง มาตื่นอีกทีประมาณ 6 โมงเช้า ขบวนยังไม่ถึงนครปฐมเลย ไม่รู้ไปเสียเวลาเอาช่วงไหนไม่ทราบ
ภาพทางขึ้นตู้โดยสารระหว่างขบวนรถวิ่งอยู่ ถ้าไม่รู้จังหวะของรถไฟ แนะนำว่าอย่าไปยืนเด็ดขาด เพราะบริเวณนี้อันตรายมากครับ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ มาถึงสถานีรถไฟนครปฐม เวลาประมาณ 6 นาฬิกาเศษ ล่าช้ากว่ากำหนด 2 ชั่วโมงเศษ
ประมาณ 7 โมงเช้า พนักงานประจำตู้โดยสาร ทำการเก็บที่นอนครับ
นับตั้งแต่ตัดสินใจเดินทางด้วยรถไฟ ก็ทำใจเรื่องเสียเวลาไว้แล้วครับ ผมเลยไม่ได้เดือนร้อนอะไรมากนัก ก็เลยนั่งชมวิวยามเช้าไปพลางๆ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ใกล้ถึงสถานีรถไฟศาลายาแล้วครับ
วิวสองข้างทาง ริมทางรถไฟ
แม้ใกล้ถึงสถานีรถไฟศาลายา แต่ยังเห็นท้องทุ่งนาได้
ระหว่างทาง ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ทำการสวนกับขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน ครับ
ขบวนรถธรรมดาที่ 255 ธนบุรี – หลังสวน ออกจากสถานีรถไฟธนบุรี เวลา 07.30 น. ถึงสถานีรถไฟหลังสวน ปลายทาง เวลา 18.15 นาฬิกาครับ ครั้งหน้าหากมีโอกาส จะนั่งกลับสุราษฏร์ธานีด้วยขบวนนี้สักครั้งครับ
ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ขณะข้ามสะพานพระราม 6 เวลาประมาณ 8 โมงเช้าครับ
และแล้วขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ ก็มาถึงสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ประมาณ 9 โมงเช้าเศษ ซึ่งตามกำหนดแล้ว ต้องมาถึงสถานีนี้เวลา 06.05 นาฬิกา ล่าข้ากว่ากำหนด 3 ชั่วโมงครับ
ล่าข้ากว่ากำหนด 3 ชั่วโมงนี้ ถือว่าโหดร้ายมากครับ ยังดีที่ผมสอบช่วงบ่าย จึงไม่มีปัญหา แต่ท่านอื่น อาจมีหงุดหงิดพอสมควรครับ
หลังจากลงจากขบวนรถเรียบร้อย ผมก็นั่งแท็กซี่เข้าที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเพื่อเตรียมตัวไปสอบในช่วงบ่ายครับ แต่ระหว่างทางเผอิญขบวนรถขบวนนี้ผ่านมาพอดี เลยขอถ่ายรูปสักหน่อยครับ
นั้นคือ ขบวนรถพิเศษสุดหรู “Eastern & Oriental Express” ที่ 952 สิงคโปร์ - กรุงเทพ นั้นเอง
ไปถึงห้องพักเกือบสิบโมงเช้า คงไม่มีเวลาแอบงีบแล้ว เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เดินทางออกจากที่พัก ไปยังสนามสอบ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงครับ
กลับมาถิ่นเดิม เลยไม่มีอาการตื่นสนามสอบครับ 555
การสอบใช้เวลา 4 ชั่วโมงครับ หลังจากสอบเสร็จ เลยนัดเจอพี่ชายหาอะไรกินแถวรามก่อนกลับห้องพักครับ แต่ไม่รู้จะทานอะไร เลยจัดไปกับบุฟเฟ่หมูกระทะ ซอยมหาดไทย
หลังจากอิ่มหมีพลีมันแล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อเตรียมเดินทางกลับสุราษฏร์ธานีในวันรุ่งขึ้นต่อไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น