ช่วงสุดท้าย สุดปลายทางสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี
จากช่วงที่ 5 หลานตาชู สเต๊กเฮาส์ – สถานีรถไฟพัทลุง เดินทางกันต่อครับ
หลังจากขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 ชุมพร – ชุมทางหาดใหญ่ เคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟพัทลุงแล้ว ประมาณ 3 นาที นายสถานีพัทลุง ก็ให้สัญญาณปล่อยขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เดินทางกลับสุราษฏร์ธานีครับ
ก่อนจะกลับขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักนิด
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟพัทลุง
มุมมองสถานีรถไฟพัทลุงจากท้ายขบวนรถครับ
มุมมองสถานีรถไฟพัทลุงจากท้ายขบวนรถอีกรูป
ขณะออกจากสถานีรถไฟพัทลุง ฟ้าสดใสไม่มีฝนครับ
วิวสองข้างทางริมทางรถไฟ
ขากลับขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี มีผู้โดยสารน้อยครับ จึงมีที่ว่างมากพอสมควร ทำให้ผมสามารถเดินถ่ายรูปจากหน้าต่างตู้โดยสารได้ทั้งสองด้านอย่างสะดวก
สักพัก ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาจอดรับส่งผู้โดยสาร ที่หยุดรถบ้านมะกอกใต้ ซึ่งตอนขามาขบวนรถท้องถิ่นที่ 447 ไม่ได้จอดครับ
หลังจากขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี จอดรับส่งผู้โดยสาร ที่หยุดรถบ้านมะกอกใต้ แล้ว ก็เคลื่อนขบวนสู่สถานีต่อไป และหยุดรับส่งตามสถานีรถไฟและที่รถตามเดิมเหมือนกับขามาครับ ซึ่งช่วงนี้ผมขอไม่ลงภาพอีก เนื่องจากขากลับไม่ได้ถ่ายทุกสถานีอย่างเช่นขามาครับ
ขากลับนี้จะเน้นถ่ายวิวสองข้างทางริมทางรถไฟครับ
เมื่อขบวนเข้าเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ฟ้าที่เคยใส กลับมีเมฆดำปกคลุมครับ
และแล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ตลอดเส้นทางครับ
ที่หยุดรถบ้านทุ่งค่าย จากมุมมองท้ายขบวน
จำนวนผู้โดยสารไม่กี่คน นั่งสบายครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าโค้งทางซ้ายก่อนถึงสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ
สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ
ตู้ ตญ ( ตู้สินค้า ) ที่ถูกจอดทิ้งในสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทองครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี กำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง ดูจากสีของท้องฟ้าข้างหน้าแล้ว เจอฝนตกหนักแน่ๆครับ
ออกจากสถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง มานิดหน่อย ฝนก็เทลงมาอย่างหนักครับ
ตกหนักขนาดพนักงานต้องมายกกระจกขึ้นครับ ไม่งั้นภายในตู้โดยสารเปียกแน่ๆ
เมื่อขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี มาถึงสถานีรถไฟร่อนพิบูลย์ ฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุด สงสัยที่ตั้งใจว่าจะถ่ายภาพซ่อมขณะขบวนรถเข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาในช่วงขากลับนั้น คงฟาล์วแน่ๆครับ
แต่เหมือนเทวดาจะรู้ จู่ๆฝนก็หยุดตกครับ ผมจึงรีบดันกระจกลง เตรียมกล้อง ตั้งท่าเล็งถ่ายอย่างดีใจครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เริ่มไต่ระดับสู่อุโมงค์ช่องเขาครับ
แม้จะมีละอองฝนบ้าง แต่ตอนนั้นไม่สนครับ เล็งยิงซัตเตอร์อย่างเดียวครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ไต่ระดับสู่อุโมงค์ช่องเขาครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เทโค้งทางซ้ายก่อนเข้าอุโมงค์ครับ
ถึงบริเวณปากอุโมงค์ช่องเขาแล้วครับ จะเห็นว่าปากอุโมงค์จะมีศาลเพียงตา หรือศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ครับ
หัวขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาแล้วครับ
ภาพสุดท้ายก่อนเข้าอุโมงค์ มีป้ายตัวเลขระบุว่า “2457” เดาว่าน่าจะเป็นปีที่ก่อสร้าง
และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็เข้าสู่อุโมงค์ช่องเขาเป็นที่เรียบร้อย
เผอิญก่อนออกจากอุโมงค์ด้านอำเภอทุ่งสง ด้วยความตื่นเต้น ผมดันไปกดปุ่มซัตเตอร์ก่อนออกจากอุโมงค์นิดเดียว จึงทำให้กล้องซึ่งตั้งอยู่ที่โหมด AV อ่านค่าแสงในที่มืด และบันทึกภาพด้วยสปีดซัตเตอร์ที่ 30 วินาที ซึ่งต้องรอให้ครบ 30 วินาที จึงจะสามารถถ่ายภาพต่อไปได้ เมื่อท้ายขบวนออกจากอุโมงค์ จึงไม่สามารถถ่ายอะไรได้ เพราะกล้องยังค้างอยู่ พอกล้องบันทึกภาพเสร็จ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็ห่างจากอุโมงค์มาไกลแล้วครับ
สรุป ทริปนี้ จึงไม่ได้ภาพปากอุโมงค์ทางด้านอำเภอทุ่งสงทั้งขาไปและขากลับครับ ไม่เป็นไรค่อยแก้ตัวใหม่ ในทริปหน้าครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ลงเขาเทโค้งทางซ้ายก่อนเข้าสถานีรถไฟช่องเขาครับ
จากนั้น ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟช่องเขาครับ
ภาพขณะขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เทโค้งขวาก่อนเข้าสถานีใสใหญ่
หากไม่นั่งรถไฟจนชำนาญ เสาจะตีเอากล้องพัง และถ้าหนักกว่านั้น ตีเข้าร่างกายจะบาดเจ็บสาหัสได้
และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 17.05 นาฬิกา ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อเติมน้ำเรียบร้อย ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็เดินเครื่องต่อไปครับ
มีการเปิดไฟภายในตู้โดยสารเตรียมแล้วครับ
นั่งรถมากว่า 12 ชั่วโมง ต้องยืดขาช่วย
ภาพหมอกจางๆบนเทือกเขาหลวงครับ
แสงสุดท้ายของวัน
แสงไฟจากหัวรถจักร ส่องกระทบสถานีห้วยปริกครับ
ภายในตู้โดยสารยามค่ำคืนครับ
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงสถานีรถไฟบ้านพรุกระแชง เวลา 18.21 นาฬิกา ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 2 ชั่วโมงเหมือนเดิม
ทริปนี้เดินทางตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกครับ
เนื่องจากขบวนรถล่าช้ากว่ากำหนดถึงสองชั่วโมง หลังจากออกจากสถานีสถานีรถไฟบ้านพรุกระแชงแล้ว เส้นทางจากนี้จะมีสภาพดี และไม่มีป้ายให้เดินเบาอีก ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี จึงวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ครับ
และขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานีครับ
เมื่อเข้าเขตสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี เข้าสู่ชานชลาที่ 2 เพื่อจอดเตรียมส่งผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางครับ
และแล้ว ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 สุไหงโกลก – สุราษฏร์ธานี ก็มาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 19.34 นาฬิกา ซึ่งตามกำหนดขบวนนี้จะมาถึงสถานีสุราษฏร์ธานี เวลา 17.55 นาฬิกา ล่าช้าประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีครับ
ใช้เวลาในการเดินทาง คือ ออกเดินทาง จากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 6.20 นาฬิกา กลับมาถึงสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี เวลา 19.34 นาฬิกา รวมระยะเวลาที่ใช้ในการนี้ รวม 13 ชั่วโมง 14 นาที ( ไม่รวมเวลาในการเดินทางออกจากบ้าน มาสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี และจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี กลับบ้าน อีก 2 ชั่วโมง )
คิดเป็นระยะทางจากสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ( กิโลเมตรที่ 635 ) ถึงสถานีรถไฟพัทลุง ( กิโลเมตรที่ 846 ) 211 กิโลเมตร และจากสถานีรถไฟพัทลุง ( กิโลเมตรที่ 846 ) กลับมาสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี ( กิโลเมตรที่ 635 ) 211 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 422 กิโลเมตร
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาทุกภาคครับ พบกันใหม่ กับเส้นทางสถานีรถไฟสุราษฏร์ธานี – สถานีรถไฟนครศรีธรรมราชครับ